คุณนำข้อมูลที่คุณได้รับมา และคุณทำให้เป็นมาตรฐานข้อมูลให้เป็นความสัมพันธ์ นั่นเป็นสาเหตุที่คุณใช้ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
เริ่มจากลูกค้ากันก่อน เราจะสร้างตารางลูกค้า โดยทั่วไป ชื่อตารางจะเป็นเอกพจน์
Customer
--------
Customer ID
Customer name
Customer address
...
ดังที่คุณเห็น ข้อมูลทั้งหมดในตารางลูกค้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกค้า
ต่อไป เราจะสร้างตารางบัญชี
Account
-------
Account ID
Account Type ID
Account balance
Account interest rate
Account overdraft
Account last access time stamp
ข้อมูลทั้งหมดในตารางบัญชีมาจากใบแจ้งความต้องการของคุณ อัตราดอกเบี้ยถูกกำหนดเป็นศูนย์สำหรับบัญชีที่ไม่มีดอกเบี้ย เงินเบิกเกินบัญชีจะถูกตั้งค่าเป็นศูนย์สำหรับบัญชีที่ไม่มีเงินเบิกเกินบัญชี
ต่อไป เราจะสร้างตารางประเภทบัญชี
Account Type
------------
Account Type ID
Account Type
ข้อมูลจะเป็น (0, กำลังตรวจสอบ) และ (1, การออม) ด้วยตารางประเภทบัญชี คุณสามารถเพิ่มประเภทบัญชีใหม่ได้อย่างง่ายดาย เช่น (2, หนังสือรับรองเงินฝาก)
ต่อไป แม้ว่าคุณจะไม่ได้พูดถึง แต่เราจะสร้างตารางธุรกรรม คุณจะต้องใช้สิ่งนี้เพื่อให้สามารถพิมพ์ใบแจ้งยอดรายเดือนได้
Transaction
-----------
Transaction ID
Transaction time stamp
Transaction amount
Account ID
ตกลง เราได้ตั้งค่าตารางชนิดเอนทิตีทั้งหมดสำหรับการธนาคารแล้ว ตอนนี้ เรามาตั้งค่าตารางความสัมพันธ์กัน
ลูกค้าและบัญชีมีความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม ลูกค้าสามารถมีได้หลายบัญชี และบัญชีหนึ่งสามารถมีลูกค้าได้หลายราย
เรามาสร้างตารางบัญชีลูกค้ากันดีกว่า
Customer Account
----------------
Customer ID
Account ID
Customer Account creation time stamp
คีย์หลัก (การจัดกลุ่ม) คือ (รหัสลูกค้า รหัสบัญชี) คุณจะต้องมีดัชนีเฉพาะใน (รหัสบัญชี รหัสลูกค้า)
ฉันเชื่อว่าเราสร้างตารางเสร็จแล้ว
บัญชีมีประเภทบัญชี
ลูกค้าสามารถมีได้หลายบัญชี
บัญชีหนึ่งสามารถมีลูกค้าได้จำนวนมาก
บัญชีหนึ่งสามารถมีธุรกรรมได้มากมาย
ธุรกรรมถูกผ่านรายการไปยังบัญชีเดียว
person
Gilbert Le Blanc
schedule
22.05.2014